ประกันเงินออม

ประกันเงินออมลดหย่อนภาษี เลือกยังไงดีให้เหมาะ

ประกันเงินออม หรือหลายคนอาจจะคุ้นหูในชื่อของประกันสะสมทรัพย์ 
มีเป้าหมายหลักเพื่อสนับสนุนให้คนเก็บเงิน อ่ะ หลายคนฟังดูอาจจะตลกจะมาช่วยชั้นเก็บเงินทำไม
แต่มันมีจริงๆนะคะ คนที่ ถ้าไม่มีคนบังคับเก็บ จะไม่สามารถเก็บเงินได้จิงจิงงง
ประกันเงินออมก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ดี ที่ช่วยบังคับเราเก็บเงินเอาไว้ใช้ตอนแก่ได้ค่ะ

การออมเงินด้วยวิธีนี้จะให้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากประจำกับธนาคารนิดนุง 
และมีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ มีทุนชีวิตให้ค่ะ ซึ่งข้อดีของทุนชีวิตก็คือ ถ้าเราโชคร้าย บ๊ายบายไปก่อนเวลาอันควร จะมีเงินก้อนส่งต่อให้กับผู้รับผลประโยชน์ของเรา นั่นเอง

ปัจจุบัน คนมักนิยมใช้ประกันเงินออมในการบริหารภาษีส่วนบุคคล เพราะเป็นค่าลดหย่อนแบบจ่ายเก็บ พูดง่ายๆ คือ จ่ายเงินเพื่อเก็บ ไม่ใช่การจ่ายทิ้งเหมือนค่าลดหย่อนอย่างดอกเบี้ยบ้าน หรือ โครงการช็อปดีมีคืนในปีก่อนๆ

แล้วเราจะเลือกประกันเงินออมยังไงดี

ก่อนอื่นต้องทราบเงื่อนไขที่สำคัญข้อนึงว่า ประกันที่จะสามารถเอามาใช้ลดหย่อนภาษีได้นั้น 
ต้องมีระยะเวลาในการคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป ซึ่งวิธีการดูประกันเงินออมของแต่ละบริษัทว่ามีระยะถือครองเกิน 10 ปีรึเปล่านั้นก็แสนง่ายแค่ดูตัวเลขท้ายแบบประกันต่างๆ เช่น 10/6, 12/6, 15/6 หรือ 18/10 ก็จะตอบได้แล้วว่าประกันแบบนั้นให้ระยะเวลาคุ้มครองเรากี่ปี

โดยที่ตัวเลขที่น้อยกว่า คือ จำนวนปีที่เราต้องจ่ายเบี้ย 
และตัวเลขที่มากกว่า คือ จำนวนปีที่กรมธรรม์นี้ให้ความคุ้มครอง

ทีนี้ เราจะรู้ได้ไงว่าผลตอบแทนเจ้าไหนดีที่สุด

เนื่องจากประกันเงินออมนั้น บริษัทประกันถูกกำหนดให้เบี้ยประกันเอาไปลงทุนต่อได้แค่ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ผลตอบแทนของแต่ละเจ้าไม่แตกต่างกันมากนัก
สิ่งหนึ่งที่อยากให้สังเกตในการเลือกซื้อคือ ผลตอบแทนที่แต่ละบริษัททำการตลาดออกมาอาจจะไม่ใช่ผลตอบแทนที่แท้จริง ซึ่งถ้าใครอยากลงรายละเอียดลึกๆ ถึงวิธีการหาผลตอบแทนที่แท้จริง หรือ IRR ของเงินออมสามารถตามไปอ่านได้ที่ หาค่า IRR ของประกันเงินออมง่ายๆด้วยตัวเองค่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเมย์อยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประกันเงินออมจากบริษัทอลิอันซ์อยุธยา
เผื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีอย่างประกันเงินออมค่ะ

แบบไหนที่ใช่เรา
  • สายซิ่ง ชอบสั้นๆ ขอไวๆ ต้อง My Saving 10/6
  • สายชิล หวังผลตอบแทนเพิ่ม ต้อง My Quick Return 12/6
  • สายHold ถือยาวอีกนิด เพิ่มทุนชีวิตและผลตอบแทน ต้อง My Double Plus 15/6

My Saving (มายเซฟวิ่งส์) 10/6

My Saving (มายเซฟวิ่งส์) 10/6

ออม 6 ปี ได้รับเงินคืนปีที่ 10
จุดเด่น คือ ออมสั้น ถือสั้นสุดๆ(ครบ 10 ปีได้รับเงินคืนเลย) และมีเงินคืนให้สูงถึง 6%ต่อปี
เหมาะสำหรับ คนที่อยากได้เงินคืนไวไว และสามารถเอาเงินไปลงทุนต่อเองที่ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า

My Quick (มายควิกรีเทิร์น) 12/6

My Quick (มายควิกรีเทิร์น) 12/6

ออม 6 ปี ได้รับเงินคืนปีที่ 12
จุดเด่น คือ ออมสั้น ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
เหมาะสำหรับ คนที่มีปัญหาสุขภาพ แต่อยากได้ประกันเก็บออมที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคาร

My Double Plus (มาย ดับเบิลพลัส) 15/6 

My Double Plus (มาย ดับเบิลพลัส) 15/6

ออม 6 ปี ได้รับเงินคืนปีที่ 15
จุดเด่น คือ มีทุนชีวิตสูงและมีโอกาสรับเงินปันผลที่สูงขึ้น เพราะมีการแบ่งเงินไปบริหารพอร์ตการลงทุนแบบ Dynamic Asset Allocation 
เหมาะสำหรับ คนที่ไม่ถนัดลงทุนด้วยตัวเองแต่อยากได้ผลตอบแทนที่สูงหน่อย บริษัทจะช่วยบริหารพอร์ตให้ และยังเหมาะกับคนที่มีคนข้างหลังที่ต้องดูแลในกรณีที่เราบ๊ายบายไปก่อนเวลาอันควร(เพราะมีทุนชีวิตที่สูง นั่นเองค่า)

นอกจากนี้ประกันเงินออมทั้งสามแบบยังมีเงินปันผลเพิ่มพิเศษให้อีกหนึ่งก้อนกับทุกคนที่ถือจนครบกำหนดสัญญาโดยอัตราการจ่ายนั้นขึ้นกับผลประกอบการของบริษัทค่า

สรุปสั้นๆ ถ้าใครที่เป็นสายซิ่งชอบลงทุนและสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงแนะนำเป็นตัว My Saving 10/6 เพราะมีเงินคืนให้ปีละ 6% สามารถนำไปลงทุนต่อ(Reinvest) ได้ตามใจชอบเลยค่ะ
แต่สำหรับใครที่อาจจะไม่ใช่สายลงทุน กลัวความเสี่ยงแถมมีเงินอยู่กับตัวไม่ค่อยได้ กระเป๋าตังสั่นไปตามโปรโมชั่น ตั้งแต่ 1.1 ยัน 12.12 แนะนำให้ซื้อเป็นประกันเงินออมที่ให้บริษัทช่วยเก็บเงินและสร้างผลตอบแทนให้นานมากขึ้นอีกหน่อยอย่าง My Quick Return 12/6 หรือ My Double Plus 15/6 ค่า

จะเห็นได้ว่าประกันเงินออมแต่ละแบบนั้น เหมาะคนคาแรคเตอร์การใช้เงินที่แตกต่างกัน
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันเงินออมลดหย่อนภาษีนะคะ

สนใจแบบประกันนี้