หาค่า IRR ของประกันเงินออมง่ายๆ ด้วยตัวเอง


เคยมั้ย อยากซื้อประกันเงินออมแต่ไม่รู้ว่าซื้อกับเจ้าไหนดี ผลตอบแทนแต่ละบริษัทก็ดูเหมือนๆกันไปหมด แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าไหนให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน วันนี้แอดมีวิธีหาคำตอบแบบง่ายๆมาฝากกันค่า

ถ้าเราอยากจะหาผลตอบแทนจากประกันเงินออมแต่ละเจ้านั้น หนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้กันนั่นก็คือ IRR หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Internal Rate of Return นั่นเอง

แล้ว IRR คืออะไร

ความหมายของ IRR นั้น คือ อัตราคิดลดที่ทำให้ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value, NPV) มีค่าเท่ากับ ศูนย์  

เริ่มงงแล้วใช่มั้ยคะ นี่พูดเองก็งงเองเหมือนกันนนน ยังๆๆๆ 5555

พูดกันง่ายๆ IRR คือ อัตราผลตอบแทนที่เราได้รับจากการลงทุนใดๆ นั่นหล่ะ (ฟังดูง่ายขึ้นหน่อย)

ปกติแล้ว การหาค่า NPV นั้น จะใช้ต้นทุนทางการเงิน(ดอกเบี้ยเงินกู้)มาเป็นอัตราคิดลดในการแปลงกระแสเงินสดสุทธิ(Net)ในอนาคต ให้กลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน  (ถ้าใครงงตรงนี้ ลองกลับไปอ่านบทความก่อนหน้าเรื่องหาค่า NPV ง่ายๆด้วยตัวเอง จะเข้าใจมากขึ้นค่ะ) 

สูตรในการหาค่า Net Present Value (NPV)

แต่การหาค่า IRR นั้นจะเป็นการคิดย้อนกลับว่า อัตราคิดลดเท่ากับเท่าไหร่ ที่เมื่อเอามาใช้แปลงกระแสเงินสดสุทธิ(Net)ในอนาคตทั้งหมด ให้กลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบันแล้วตัวเลขนั้นมีค่าเท่ากับ ตัวเลขเงินลงทุนเริ่มต้น

สูตรในการหาค่า Net Present Value (NPV)

ลองคิดตามดูดีๆ จะเห็นว่า ถ้าตัวเลขสองก้อนนี้มันเท่ากัน ก็จะทำให้ NPV มีค่าเท่ากับ ศูนย์ นั่นเอง (อย่าลืมว่า CF0 เป็นเงินลงทุนตอนแรก ซึ่งกระแสเงินสดจ่ายออก ตัวเลขติดลบอยู่ดี)  

ดังนั้น สูตรในการคำนวณหาค่า IRR ก็คือ

สูตรในการหาค่า Internal Rate of Return (IRR)

ถ้า IRR เท่ากับ ต้นทุนทางการเงิน แสดงว่าการลงทุนนั้น เท่าทุน 
ถ้า IRR มากกว่า ต้นทุนทางการเงิน แสดงว่าการลงทุนนั้น มีกำไร ควรค่าแก่การลงทุน
และถ้า IRR น้อยกว่า ต้นทุนทางการเงิน แสดงว่าการลงทุนนั้น ขาดทุน เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าค่า 

สรุปง่ายๆ IRR ยิ่งสูง ยิ่งดี

หลายคนอาจเริ่มคิดแล้วว่า ถ้าอยากรู้ค่า IRR ของประกันเงินออมซัก 10 ปี ต้องคิดมือจริงๆหรอ

ถ้าใครขยัน หรือคันมือก็ลองเอาสูตรไป คำนวณหาค่า IRR ได้ด้วยตัวเองเลยค่า แต่วันนี้แอดจะมาสอนใช้เครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงในการหาค่า IRR ง่ายๆด้วยตัวเอง นั่นก็คือ Excel และ แอป Financial Calculator ใน Smart phone หรือ Tablet ของเรา นั่นเอง

มาดูตัวอย่างจากแบบประกันสะสมทรัพย์จริงๆของบริษัทอลิอันซ์อยุธยา กันดีกว่าค่า

ลิซ่าซื้อประกันสะสมทรัพย์ My Saving 10/6(มีเงินปันผล) เบี้ยสะสมปีละ 100,000 บาท

ตามเงื่อนไขแบบประกันนั้น ลิซ่าจะได้เงินคืน 6%ของทุนประกันทุกปี คิดเป็นมูลค่า 16,702 บาท/ปี ตลอดอายุกรมธรรม์(10 ปี)

เมื่อครบกำหนดสัญญาได้รับเงินก้อน 445,374 บาท นอกจากนี้ยังมีโอกาสรับเงินปันผลรายปี และเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญาอีกด้วย 

อยากรู้ว่าการออมเงินด้วยวิธีนี้ให้ IRR เท่าไหร่ 

ลองมาดูเครื่องมือแรกกันก่อนเลย

  • ใช้ Excel
การหาค่า IRR ของแบบประกันเงินออมด้วย Excel

เมื่อเปิดโปรแกรม Excel ขึ้นมาแล้ว ให้ใส่ข้อมูลกระแสเงินสดต่างๆลงไป โดยที่

CF0 คือ กระแสสดเงินที่เกิดขึ้นตอนต้นปีที่ 1

CF1 คือ กระแสสดเงินที่เกิดขึ้นตอนสิ้นปีที่ 1(หรือ ต้นปีที่2)

CF2 คือ กระแสสดเงินที่เกิดขึ้นตอนสิ้นปีที่ 2(หรือ ต้นปีที่3)

CF10 คือ กระแสสดเงินที่เกิดขึ้นตอนสิ้นปีที่ 10 นั่นเอง

เบี้ยสะสม คือ เงินที่เราสะสมกับบริษัทเป็นระยะเวลา 6 ปี (อย่าลืมใส่เครื่องหมายลบหน้าตัวเลขด้วยนะค้า)

เงินคืนสิ้นปี คือ เงินที่บริษัทจะคืนให้กับเราทุกๆสิ้นปี จากตัวอย่างแบบประกัน My Saving 10/6 นี้ ลิซ่าจะได้รับเงินคืน 6% ของทุนประกันทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีที่ 1 จนถึงสิ้นปีที่ 10 

เงินปันผลสิ้นปี คือ ผลประโยชน์ที่จะได้รับตามผลประกอบการของบริษัท โดยตัวเลขจากตัวอย่างนี้ เป็นกรณีที่บริษัทมีผลประกอบการที่ 4%ตลอดอายุสัญญา ทำให้ลูกค้าได้รับเงินปันผลตั้งแต่สิ้นปีที่ 2 เป็นต้นไป

เงินปันผลครบกำหนดสัญญา คือ ผลประโยชน์ที่บริษัทจะจ่ายเพิ่มเติมให้ในงวดสุดท้าย โดยขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทตลอดอายุสัญญา ถ้าบริษัทมีผลกำไรก็จะจัดสรรเงินมาให้อีกหนึ่งก้อนในงวดสุดท้าย 

Tax Shield คือ ผลประโยชน์ทางภาษี ในที่นี้สมมุติให้รายได้ของลิซ่ามีฐานภาษีอยู่ที่ 15% เมื่อซื้อประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนเต็ม 100,000 บาทแรก ก็จะได้รับเงินคืนภาษีมาที่ 15,000 บาท โดยเงินจะเข้ามาก้อนแรกในสิ้นปีที่ 1(หรือ ต้นปีที่ 2) นั่นเองค่ะ

การหาค่า IRR ของแบบประกันเงินออมด้วย Excel

เมื่อกรอกตัวเลขในตารางครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้รวมกระแสเงินสดสุทธิในแต่ละปีออกมา หลังจากนั้นเราก็สามารถคำนวณหาค่า IRR ได้ง่ายๆ แค่กด

=IRR(กระแสเงินสดสุทธิCF0:กระแสเงินสดสุทธิCF10)
[ในวงเล็บหลัง IRR ลากยาวครอบตั้งแต่เซลล์ B9 ไปจนถึง L9 ได้เลยค่า]

กด Enter ก็จะได้ค่า IRR ออกมา เท่ากับ 4.45% 

  • ใช้ แอป Financial Calculator

เชื่อว่าอ่านกันมาจนถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะมีแอป Financial Calculator กันแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มี สามารถเข้าไป ดาวน์โหลดได้ที่App Store สำหรับระบบ IOS และGoogle Playstore สำหรับระบบ Android ค่ะ

ติดตั้งแอปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเข้าไปใช้งานได้เลย

  1. กดเข้าไปที่ IRR NPV Calculator

2. ในส่วนของ Cashflow นั้น เหมือนกับตอนที่เราคิดด้วย Excel เลย ที่สำคัญ ถ้ากระแสเงินสดสุทธินั้นเราจ่ายออก อย่าลืม! ให้ใส่เครื่องหมายลบ หน้าตัวเลขด้วยค่า 

3. หลังจากใส่ตัวเลขครบถ้วนก็ กด CALCULATE แอปก็จะคำนวณค่า IRR ออกมาได้ เท่ากับ 4.4452% หรือนั่นก็คือ 4.45% เท่ากันเป๊ะค่า

เป็นยังไงกันมั่งคะสำหรับวิธีการหาค่า IRR ด้วยตัวเอง ง่ายไม่แพ้การหาค่า NPV เลยใช่มั้ยคะ 

สำหรับใครที่มีฐานภาษีสูงๆนั้น ประกันเงินออมก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษี สร้างวินัยในการเก็บออม พร้อมทั้งให้ความคุ้มครองเป็นทุนชีวิตสำหรับคนข้างหลังตลอดอายุสัญญาอีกด้วยค่ะ

อีกหนึ่งสิ่งที่อยากจะฝากไว้ให้คิด ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันเงินออมนั้น คือ เราไม่ควรพิจารณาแค่อัตราผลตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว แต่เราควรเลือกซื้อประกันเงินออมกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และตัวแทนที่พร้อมที่จะดูแลเราค่ะ

หวังว่าโพสนี้จะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆหลายๆคนที่กำลังมีปัญหาในการหาค่า IRR ของประกันเงินออม กันอยู่นะคะ ถ้าใครมีคำถามสงสัยตรงไหน คอมเมนต์มาใต้โพสต์ได้เลยค่ะ
และถ้าใครกำลังมีปัญหาว่าจะเลือกประกันเงินออมยังไงดีสามารถตามไปอ่านต่อได้ที่ ประกันเงินออม ค่า

เจอกันใหม่ในโพสหน้านะค้า

ปล.ตัวเลขการคำนวณผลตอบแทนในแบบประกัน My Saving 10/6 นั้นเป็นตัวเลขประมาณการผลตอบแทนในกรณีที่บริษัทมีผลกำไรที่ 4% หากอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของตัวเอง สามารถหลังไมค์แอดมาที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่า


สำหรับใครที่สนใจอยากออมเงินด้วยประกันเงินออม ปรึกษาเรื่องการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ วางแผนภาษี กองทุนรวม ประกันสุขภาพ สามารถทักส่วนตัวมาในเฟซบุ๊คเพจ แอร์หมวยขี้งก ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่า