สร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนหลังเกษียณด้วยประกันบำนาญ


เก็บเงินในวันนี้ เพื่อให้มีเงินใช้ทุกๆปี(หลังเกษียณ)ในวันหน้า คือ รูปแบบการทำงานของเครื่องมือทางการเงินที่เรียกว่า “ประกันบำนาญ”

  • คนส่วนใหญ่เวลาเงินเดือนออกมักจะพบกับ เรื่องบังเอิญ อยู่เสมอ บังเอิญ Iphone รุ่นใหม่ออก บังเอิญโรงแรมจัดโปรโมชั่นลดราคา บังเอิญว่าแฟนอยากกินโอมากาเซะ (นั่น!!) สิ่งเหล่านี้ทำให้เงินของพวกเขาถูกดึงออกจากกระเป๋าไปโดยไม่รู้ตัว เปิดแอปดูเงินในบัญชีอีกที เงินที่มีก็เหลือไม่พอสำหรับการเก็บออม
  • อันที่จริง ถ้าลองมาคิดดูดีๆ จะพบว่าเงินออมของเราในวันนี้ มันคือเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายของเราในอนาคต การเก็บเงินก็เหมือนกันการหย่อนเมล็ดพันธุ์ลงไปในดิน เพื่อรอที่จะเก็บกินในวันข้างหน้า แต่ถ้าเราไม่เริ่มปลูกตั้งแต่เนิ่นๆหรือไม่เริ่มเลย ผลผลิตก็อาจจะโตไม่ทันในวันที่เราต้องการ หรือโชคร้ายไปกว่านั้นอาจจะมีแค่ผืนดินแห้งๆไม่มีดอกผลใดๆก็เป็นได้

แล้วประกันบำนาญมันคืออะไรหล่ะ

  • คิดภาพตามง่ายๆ การเก็บเงินกับประกันบำนาญนั้น เหมือนกับการที่เราแบ่งเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการทำงาน เอามาหยอดเงินใส่กระปุกหมูทุกๆปี ปีละเท่าๆกัน โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ เราไม่สามารถทุบเจ้ากระปุกหมูเพื่อเอาเงินออกมาใช้ได้จนกว่าเราจะเกษียณ
  • เมื่อถึงปีที่เราเกษียณ เจ้ากระปุกหมูจะทำหน้าที่เบ่งเงินออกมาให้เราใช้ทุกปี ในจำนวนที่เท่าๆกัน จบสิ้นปีใช้เงินก้อนนี้จนหมด ปีต่อไปก็จะมีเงินก้อนใหม่ออกมาให้เราใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบกำหนดอายุกรมธรรม์(ส่วนใหญ่ครบตอนอายุ 85 ปีขึ้นไป) แต่ถ้าเกิดโชคร้ายเสียชีวิตไปก่อน เงินที่เหลือก็จะถูกส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานแทน

ความเสี่ยงต่ำได้เงินคืนในจำนวนที่แน่นอน

  • เป็นที่รู้กันว่าการเก็บเงินด้วยประกันบำนาญนั้น ความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ จึงไม่น่าแปลกใจว่าผลตอบแทนที่ได้รับก็จะน้อยตามไปด้วย อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะเกิดคำถามว่า เอาเงินไปลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมไม่ดีกว่าหรอ ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงนั้นผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับย่อมสูงกว่าอย่างแน่นอน
  • แต่อย่าลืมว่า High Risk มาคู่กับ High Return เสมอ ดังนั้น การนำเงินที่เตรียมไว้สำหรับการเกษียณทั้งหมดไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง(โดยที่ไม่มีความรู้) อาจจะทำให้เงินที่เราตั้งใจเตรียมไว้เพื่อเกษียณอย่างเกษมไปไม่ถึงฝั่งก็เป็นได้ หากปีนั้นดันเกิดวิกฤตแบบ Covid-19 ที่ทำให้มูลค่าหุ้นหรือกองทุนลดต่ำลงกว่าที่คาดการณ์
  • ดังนั้น การวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณที่ดีจึงควรจัดพอร์ทโดยกระจายเงินไปไว้ทั้งในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและสินทรัพย์ที่มีต่ำ

แล้วประกันบำนาญมันดียังไงหล่ะ

  • ประกันบำนาญมันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยสร้างวินัยทางการเงิน ตั้งแต่ก่อนเกษียณ ไปจนถึงช่วงหลังเกษียณเลยทีเดียว เพราะเมื่อเราตัดสินใจออมเงินกับประกันบำนาญแล้ว เราจำเป็นต้องหยอดเงินใส่กระปุกหมูอย่างสม่ำเสมอทุกปี และเมื่อถึงช่วงหลังเกษียณ เราก็ไม่สามารถที่จะใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นได้ เพราะน้อนกระปุกหมูจะเบ่งเงินออกมาให้เราในจำนวนที่เท่ากัน เราไม่สามารถไปทุบกระปุกน้อนเพื่อเอาเงินทั้งก้อนออกมาใช้ก่อนเวลาได้ ซึ่งกลไกนี้จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าแก่ตัวไปยังไงก็มีเงิน (เว้นแต่ถ้าอายุยืนเกินกว่า 90 ปี อันนี้อาจจะต้องเตรียมแผนสำรองไว้อีกส่วนหนึ่ง)

สิทธิในการลดหย่อนภาษี

  • นอกจากการสร้างวินัยในการเก็บเงินแล้ว ประกันบำนาญยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ 15%ของรายได้ทั้งปี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยที่เงินส่วนนี้เมื่อรวมกับ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม(SSF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) กองทุนสงเคราะห์เอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งเงินภาษีได้คืนมา ก็สามารถนำมาเก็บออมต่อเพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคงต่อไป

ประกันบำนาญเหมาะกับใคร

  • จริงๆแล้ว ประกันบำนาญเหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มักจะเจอกับเรื่องบังเอิญ(ให้ใช้เงิน)อยู่เสมอ 5555 เรียกได้ว่าถ้าจิตไม่แข็งพอ เก็บเงินไว้ในที่ที่ถอนง่าย โอนสบายแค่ปลายนิ้ว อาจจะทำให้เงินหมดก่อนวัยอันควร
  • นอกจากนี้ประกันบำนาญยังเหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และอยากมั่นใจว่า ถึงแก่แค่ไหนก็จะมีเงินใช้ทุกๆปีในจำนวนที่แน่นอน
  • สรุปสั้นๆ ถ้าใครกำลังมองหาเครื่องมือที่ใช้ในการลดหย่อนภาษี รวมถึงช่วยสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนหลังเกษียณให้ตัวเอง ประกันบำนาญ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว

ปัจจุบัน ประกันบำนาญมีให้เลือกอยู่ในท้องตลาดอยู่หลายเจ้า ซึ่งผลตอบแทนและความคุ้มครองส่วนใหญ่มักจะใกล้เคียงกัน

และสำหรับใครที่อยากได้ประกันบำนาญสำหรับลดหย่อนภาษีในปีนี้ สามารถ Inbox มาได้ แอดพร้อมให้คำแนะนำดีๆ ในการวางแผนภาษีและแผนเกษียณระยะยาวค่ะ : )